ประวัติความเป็นมาของจักรยาน (Bicycle History)

Dandy horse หรือ Draisienne เป็นยานพาหนะ สองล้อคันแรก ซึ่งขี่โดยใช้คนสองคน ถูกสร้างขึ้นโดยชาวเยอรมันชื่อ Baron Karl von Drais,  เชื่อกันว่านั่นคือสิ่งบุกเบิกไปสู่จักรยานสมัยใหม่ , Drais เปิดตัวจักรยานของเขาต่อสาธารณะชนใน เมือง Mannheim ช่วงฤดูร้อนในปี 1817 และในเมือง Paris ในปี 1818

โดยที่คนขี่ขึ้นคร่อมบนคานไม้ที่มีล้อ แล้วใช้ขาในการในการดันให้รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า และมีแฮนด์จับอยู่ด้านหน้าคอยบังคับทิศทาง

คร้งแรกที่มีการใช้ระบบกลไกขับเคลื่อนยานพาหนะสองล้อ ถูกสร้างขึ้นโดยช่างตีเหล็กชาวสก๊อตชื่อ  Kirkpatrick MacMilan ในปี 1839 ,ถึงแม้จะมีการโต้เถียงกันในการกล่าวอ้างอยู่บ่อยครั้ง แต่เขาก็มีชื่อเกียวข้องเกี่ยวกับบันทึกต่างๆในการที่เขาใช้ยานพาหนะที่มีเพียงสองล้อบนท้องถนน

ประมาณปี 1860 ชายชาวฝรั่งเศสชื่อ Pierre Michaux และ Pierre Lallement ได้ทำการออกแบบจักรยานแนวใหม่โดยมีกลไกข้อเหวี่ยงที่ขับด้วยแป้นถีบติดไว้กับล้อหน้าขนาดใหญ่ หลังจากนั้นนักพัฒนาชาวฝรั่งเศษชื่อ Douglass Grasso ก็ล้มเหลวในรุ่นต้นแบบของ Pierre Lallment’s bicycle ในอีกสองสามปีต่อมา

 การประดิษฐ์หลายๆ ครั้งมีการใช้รูปแบบการขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง  ที่รู้แน่ชัดคือชาวสก๊อตแลนด์ชื่อ Thomas McCall ในปี 1869 . ตอนที่ฝรั่งเศษประดิษฐ์จักรยานนั้นเริ่มทำมาจากเหล็กและไม้ หลังจากนั้น ก็พัฒนามาใช้วัสดุที่ใช้ทำเหรียญซึ่งทำมาจาก ริโทเนียม โดยลักษณะเด่นคือเป็นเฟรมแบบท่อกลม บนล้อซี่ลวดและยางแบบแข็ง จักรยานรูปแบบนี้ขับขี่ได้ยากมากเนื่องจากอานอยู่สูง และการทรงตัวทำได้ไม่ดี.

ในปี 1868 Rowley Turner ตัวแทนฝ่ายขายของ Coventry Sewing Machine Company ได้ย้าย Michaux cycle มาที่ Coventry ประเทศอังกฤษ, ลุงของเขาชื่อ Josiah Turner และผู้ร่วมหุ้น James Starley ใช้แนวความคิดเหล่านี้สำหรับสร้าง Coventry Model และนั่นเป็นโรงงานแห่งแรกในการผลิตจักรยานในอังกฤษ

มีความพยายามในการแก้ปัญหาสำหรับคนตัวเล็กโดยการลดขนาดของล้อหน้าให้เล็กลง และย้ายอานนั่งมาไว้ด้านหลังล้อ ซึ่งลักษณะแบบนี้ต้องใช้เฟืองขับ และมีผลกระทบกับหลายๆด้าน รวมทั้งกำลังในการปั่นลดลงด้วยเช่นกัน การมีทั้งก้านบันไดปั่นและแฮนด์จับอยู่ที่ล้อหน้ายังเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตก

ต่อมา J.K Starley,J.H. Lawson และ Shergold ได้แก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยสร้าง โซ่ขับ โดยเชื่อมต่อระหว่างส่วนกลาง เฟรมกับแกนล้อหลังซึ่งรู้จักกันในชื่อ Safety bicycle หรือ Upright bicycle แต่ก็ยังไม่มีล้อยางแบบเติมลม ซึ่งเมื่อล้อเล็กลงทำให้กระด้างกว่าแบบล้อใหญ่ จักรยาน  Starley’s 1885 Rover ผลิตใน Coventry. 

การพัฒนาในยุคต่อมาได้พยายามเพิ่มความสะดวกสบายให้กับจักรยาน ในปี 1980 ถือเป็นยุคทองของจักรยาน หรือ Golden Age of Bicycle

ในปี 1888 ชายชาวสก๊อตแลนด์ John Boyd Dunlop ได้สร้างยางแบบเติมลมขึ้นมาและใช้อย่างแพร่หลายในเวลาต่อมา

หลังจากนั้นไม่นาน ได้มีการพัฒนาให้ล้อหลังมีการหมุนแบบฟรีได้ และในปี 1890 ได้เริ่มพัฒนาในรายละเอียดปลีกย่อยมากขึ้นเช่น เบรค ,เฟืองเกียร์ ในเลาต่อมา

จักรยานและม้าถูกใช้อย่างแพร่หลายรองจากรถยนต์ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19^th ในยุที่ถนนเริ่มเป็นทางเรียบ จักรยานถูกพัฒนาขึ้นเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน